ทั้งนี้ ในถ้อยแถลงของธนาคารฯ ระบุว่า คาดว่าผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ(GDP) ในภูมิภาคนี้จะเขยิบไปจนโตได้ถึงร้อยละ
5.7 ในสองปี
จากปัจจัยการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจของประเทศจีนและอินเดีย
"การเจริญเติบโต(ทางเศรษฐกิจ)ที่แข็งแกร่งในจีนและอินเดียจะช่วยให้ประเทศในภูมิภาคนี้รักษาการเติบโตอย่างต่อเนื่องทางเศรษฐกิจของตัวเองไว้ได้
กระนั้นผู้กำหนดนโยบายยังจำเป็นต้องรอดูความเสี่ยง รวมทั้งการไหลกลับของเงินทุนที่มีศักยภาพ
จากการเปลี่ยนแปลงนโยบายการเงินในบางประเทศ โดยเฉพาะอย่างยิ่งสหรัฐอเมริกา" Juzhong Zhuang รองผู้อำนวยการฝ่ายเศรษฐศาสตร์ของธนาคารฯ
กล่าว
ในเดือนเมษายนที่ผ่านมา กองทุนการเงินระหว่างประเทศ
(IMF) ปรับลดการคาดการณ์การเติบโตของเศรษฐกิจโลกในปีนี้ลง
0.2 จุด
เป็นร้อยละ 3.2 และ 0.1 จุด เป็นร้อยละ 3.5 ในปีหน้า โดยระบุว่าภาวะเศรษฐกิจทั่วโลกที่ซบเซานั้นทำให้เศรษฐกิจโลกอ่อนแอและมีความเสี่ยงมากขึ้น
แต่เอดีบีคาดการณ์ ภูมิภาคเอเชียใต้
จะได้แรงหนุนจากเศรษฐกิจอินเดีย ซึ่งจะยังคงมีการขยาย ตัวทางเศรษฐกิจอย่างรวดเร็ว
โดยคาดว่าจะเติบโตร้อยละ 6.9 ในปีนี้และร้อยละ 7.3 ในปีต่อไป ด้วยแรงหนุนจากผู้บริโภคภาคเอกชนที่แข็งแกร่ง
ในขณะที่การปฏิรูประบบภาษีในปีนี้และความคืบหน้าในการปรับโครงสร้างงบแสดงสถานะทางการเงินธนาคาร
ก็จะช่วยฟื้นการลงทุนและขับเคลื่อนให้เกิดการขยายตัวร้อยละ 7.8 ในปีถัดไป
ส่วนเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ คาดว่าเศรษฐกิจจะเติบโตร้อยละ
4.5 ในปีนี้
จากความแข็งขันของรัฐบาลในการลงทุนโครงสร้างพื้นฐาน และสำหรับปีถัดไป อนุภูมิภาคนี้
คาดว่าจะพึงพอใจกับอุปสงค์ที่สูงขึ้นจากประเทศที่เจริญแล้ว และราคาสินค้าโภคภัณฑ์ที่ปรับตัวสูงขึ้น
แต่สำหรับอินโดนีเซีย สตีฟ ทาบอร์
ผู้อำนวยการธนาคารฯ กล่าวว่าธนาคารฯ ปรับลดการคาดการณ์การเติบโตของจีดีพีมาอยู่ที่ร้อยละ
5 ในปีนี้
จากการประมาณการครั้งแรกอยู่ที่ร้อยละ 5.2
ด้านเอเชียกลาง,เอดีบีประเมินว่าอนุภูมิภาคนี้จะยังคงเจอแรงกดดันจากราคาน้ำมันและก๊าซธรรมชาติ
ที่ยังคงตกต่ำ และการลดลงของอุปสงค์จากต่างประเทศ ทำให้การเจริญเติบโตของอนุภูมิภาคในขณะนี้ปรับลดลงไปอยู่ที่ร้อยละ
1.5 ในปีนี้
จากการคาดการณ์เมื่อเดือนมีนาคมที่ผ่านมา ว่าจะอยู่ที่ร้อยละ 2.1
ทั้งนี้ ผู้จัดการกองทุนทั่วโลกยังคงต้อง
"เวท&ซี”..รอดู ผลการสำรวจความคิดเห็นในการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา,อันจะเป็นตัวที่อาจกำหนดทิศทางของการไหลเวียนของเงินลงทุนทั่วโลกด้วย.#
ไม่มีความคิดเห็น :
แสดงความคิดเห็น