พิธีมอบวุฒิบัตรแก่ผู้สำเร็จการศึกษาฝึกอบรม หลักสูตร“นบร. และ พพร. รุ่นที่ 5”ประจำปี 2559

สำนักงาน กปร. จัดพิธีมอบวุฒิบัตรแก่ผู้สำเร็จการศึกษาฝึกอบรม
หลักสูตร“นบร. และ พพร. รุ่นที่ 5”ประจำปี 2559

    วันอังคารที่ 7 ธันวาคม 2559 เวลา 09.20 น. นายอำพล  เสนาณรงค์ เป็นประธานในพิธีมอบวุฒิบัตรแก่ผู้สำเร็จการศึกษาอบรมหลักสูตร “หลักสูตรนักบริหารการพัฒนาตามแนวพระราชดำริ (นบร.) รุ่นที่ 5 และ หลักสูตรการพัฒนาองค์ความรู้และเสริมสร้างเครือข่ายการพัฒนาตามแนวพระราชดำริ และปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง (พพร.) รุ่นที่ 5 รวมจำนวน 96 คน....

มอบวุฒิบัตร นบร./พพร. รุ่น5

เก็บภาพไว้ในความทรงจำดีๆ

คณะผู้เข้าอบรมหลักสูตร นักบริหารการพัฒนาตามแนวพระราชดำริ (นบร.) รุ่นที่ 5 ถ่ายภาพร่วมกับผู้บริหารสำนักงาน กปร.และคณาจารย์จากสถาบันนิด้า ในวันเข้ารับวุฒิบัตร เมื่อวันที่ 7 ธ.ค.2559 ณ โรงแรมเดอะ สุโกศล

บทความเทิดพระเกียรติNo.4

พระราชินี คู่บุญบารมีพระราชา

ภาพในความทรงจำที่ประจักษ์ต่อสายตาของพสกนิกรชาวไทยอย่างชัดเจนต่อเนื่องมาโดยตลอดคือภาพการเสด็จพระราช ดำเนินของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ในการเยี่ยมเยียนราษฎรในภูมิภาคต่างๆ แม้จะห่างไกลทุรกันดารสักเพียงใด โดยมี สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ โดยเสด็จเคียงข้างด้วยเสมอ...

กปร.ประชุมหญ้าแฝก

     วันศุกร์ที่ 18 พฤศจิกายน 2559  เวลา 09.30 น. นายอำพล เสนาณรงค์  องคมนตรี  เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการพัฒนาและรณรงค์การใช้หญ้าแฝกอันเนื่องมาจากพระราชดำริ ครั้งที่ 2 / 2559  ณ ห้องประชุม 201 อาคารสำนักงานโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ  แขวงบางยี่ขัน กรุงเทพฯ
โดยมีนายดนุชา สินธวานนท์ เลขาธิการ  กปร. ผู้บริหารสำนักงาน กปร. และหัวหน้าส่วนราชการที่เกี่ยวข้องพร้อมนักวิชาการผู้ทรงคุณวุฒิ จากหน่วยงานต่าง ๆ ที่ดำเนินงานสนองพระราชดำริเข้าร่วมการประชุมในครั้งนี้ จำนวน 100 ท่าน

ประมวลภาพ : ทร.บริจาคโลหิต ถวายเป็นพระราชกุศล

พลเรือโท ปัญญา เล็กบัว รองผู้บัญชาการกองเรือยุทธการ ได้เดินมาตรวจเยี่ยม คณะ ข้าราชการ ทหาร กองเรือยุทธการ และหน่วยขึ้นตรงกองทัพเรือในพื้นที่สัตหีบ ที่ได้ร่วมกันบริจาคโลหิต เนื่องในวันกองทัพเรือ 2559และเป็นถวายเป็นพระราชกุศล แด่พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช แสดงออกถึงความจงรักภักดี ความกตัญญู และสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณ ที่พระองค์ทรงมีต่อเหล่าพสกนิกรชาวไทย ตั้งแต่วันที่14 -17 พ.ย.59 ณ โรงพยาบาลสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ กรมแพทย์ทหาเรือ อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี

บทความเทิดพระเกียรติฯ NO.2

“พระผู้ทรงเป็นที่พึ่งของปวงชนชาวไทย”

     จอมพลหญิง จอมพลเรือหญิง จอมพลอากาศหญิง สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ ตลอดระยะเวลาแห่งการดำรงพระอิสริยยศ “พระราชินี” จนถึง สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ ได้ทรงปฏิบัติพระราชภารกิจน้อยใหญ่นานัปการทั้งในฐานะ “พระผู้ทรงเป็นที่พึ่งของปวงชนชาวไทย” และในฐานะ “คู่บุญคู่พระราชหฤทัย” ของ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ทรงช่วยแบ่งเบาพระราชภารกิจ ในการบำบัดทุกข์บำรุงสุขแก่อาณาประชาราษฎร์ ทั้งโดยตามเสด็จ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช และเสด็จพระราชดำเนินเป็นการส่วนพระองค์ไปทรงเยี่ยมราษฎรในชนบททั่วทุกภูมิภาค แม้ตรากตรำพระวรกาย เนื่องจากการคมนาคมในสมัยนั้น ยังไม่สะดวกสบายเหมือนในปัจจุบัน ก็มิได้ทรงย่อท้อแต่อย่างใด...

บทความเทิดพระเกียรติ NO.1

จอมพลหญิงแห่งกองทัพไทย

ตลอดระยะเวลาแห่งการดำรงพระอิสริยยศ“พระราชินี” จนถึง สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ ได้ทรงปฏิบัติพระราชภารกิจน้อยใหญ่นานัปการทั้งในฐานะ “พระผู้ทรงเป็นที่พึ่งของปวงชนชาวไทย” และในฐานะ “คู่บุญคู่พระราชหฤทัย” ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 9 ทรงช่วยแบ่งเบาพระราชภารกิจ ในการบำบัดทุกข์บำรุงสุขแก่อาณาประชาราษฎร์ ทั้งโดยตามเสด็จ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 9 และเสด็จพระราชดำเนินเป็นการส่วนพระองค์ไปทรงเยี่ยมราษฎรในชนบททั่วทุกภูมิภาค แม้ตรากตรำพระวรกาย เนื่องจากการคมนาคมในสมัยนั้น ยังไม่สะดวกสบายเหมือนในปัจจุบัน ก็มิได้ทรงย่อท้อแต่อย่างใด...

บทความเทิดพระเกียรติ No.10

“พระราชินี ผู้ปลูกฝันในใจไทย”

สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ได้โดยเสด็จพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 9 ไปทุกหนแห่งด้วยพระวิริยะอุตสาหะ จนอาจกล่าวได้ว่า ไม่มีที่แห่งใดบนผืนแผ่นดินไทยที่ทั้งสองพระองค์ไม่เคยเสด็จฯ ไปถึง ทรงเพียรพยายามทุกวิถีทางที่จะรับรู้ถึงความเดือดร้อนและความต้องการของราษฎร เพื่อพระราชทานความช่วยเหลือได้อย่างสอดคล้องกับสภาพปัญหาแท้จริง ทรงเริ่มตั้งแต่การแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้าที่เป็นปัจจัยสำคัญในการดำรงชีวิต ตลอดจนวางรากฐานการพัฒนาที่มั่นคงและยั่งยืน ปรัชญาการทรงงานของสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ทรงทำตามและยึดแนวพระราชดำริ ในพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 9 เป็นหลัก โดยตั้งอยู่บนพื้นฐาน สำคัญ 5 ประการ คือ ...

สิงคโปร์แซงไทย แชมป์ลงทุนท่องเที่ยวเมียนมา

ADB ยาหอม “เอเชีย” ครึ่งปีหลังยังสดใส

            (จาการ์ตา) เมื่อสัปดาห์ปลายเดือนก.ย.ที่ผ่านมา ธนาคารเพื่อการพัฒนาเอเชีย (ADB) คาดการณ์เศรษฐกิจของเอเชียจะขยายตัวในอัตราคงที่ในปีนี้และปีหน้า ท่ามกลางการหดตัวทางเศรษฐกิจในบางประเทศ และยังคงเตือนเรื่องของเงินทุนไหลออก

“ดานัง” เล็งห้ามขายเหล้าเบียร์หลังสี่ทุ่ม

ครึ่งปีแรก 2016 ชาติลุ่มน้ำโขงยิ้มแป้น นักท่องเที่ยวตปท.แห่เข้าตามเป้า

               ถือเป็นความคาดหวังและเป็นเป้าหมายของทุกประเทศในอาเซียน ที่ต้องการให้นักท่องเที่ยวต่างชาติเข้ามาเยือน เพราะจะเป็นการสร้างรายได้ให้ประเทศอย่างเป็นกอบเป็นกำ โดย สนข.ซินหัว รายงานเมื่อปลายสัปดาห์ที่ผ่านมา ว่าการท่องเที่ยวเมียนมาร์ เปิดเผยตัวเลขนักท่องเที่ยวต่างชาติที่เดินทางมารเยือนเมียนมาร์ ในช่วงครึ่งปีแรกของปีนี้ เทียบกับช่วงเดียวกันของปีกลาย เพิ่มขึ้น 4% หรือประมาณ1.69 ล้านคน เทียบกับปีกลายที่มีนักท่องเที่ยวเข้ามา 6.5 แสนคน ทั้งนี้ นายอู เมียว วิน นัต ผู้อำนวยการการท่องเที่ยวและโรงแรม เมียนมาร์ กล่าวว่า นักท่องเที่ยวยังเข้ามาเที่ยวเพิ่มขึ้นแม้ว่าจะเข้าสู่ฤดูมรสุมแล้วก็ตาม โดย70% เป็นนักท่องเที่ยวจากไทย สิงคโปร์ จีน และญี่ปุ่น ขณะที่เป็นนักท่องเที่ยวยุโรปประมาณ 30% และคาดว่าในปีนี้จะมีนักท่องเที่ยวมาเยือนเมียนมาร์ประมาณ 5.5 ล้านคน

ในส่วนไทย นักวิเคราะห์เศรษฐกิจระบุว่า ตัวเลขนักท่องเที่ยวต่างชาติ ช่วงครึ่งปีแรก(ม.ค.-มิ.ย.) ก็เพิ่มขึ้นเกือบ13% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีกลาย

             ขณะที่ กัมพูชา ซึ่งมี “นครวัด” เมืองเสียมราฐ เป็นแหล่งท่องเที่ยวสำคัญนั้น Ngouv Sengkat ผอ.การท่อง เที่ยวประจำจังหวัดเสียมราฐ ระบุผ่านสื่อในบ้านว่าช่วงครึ่งปีแรกของปีนี้ มีนักท่องเที่ยวมาเยือนถึง 3.1 ล้านคนหรือเพิ่มขึ้น 3% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีกลาย โดย 2ใน3ของผู้มาเยือน หรือประมาณ 2 ล้านคน เป็นนักท่องเที่ยวในประเทศ และประมาณ 1.1 ล้านคนเป็นนักท่องเที่ยวต่างชาติ ซึ่งส่วนใหญ่มาจากกลุ่มประเทศอาเซียนและโซนเอเชีย-แปซิฟิก ขณะที่สถาบันอังกอร์ที่ดูแลการเก็บค่าเข้าชมนครวัด ระบุว่ายอดจำหน่ายบัตรในช่วง 6 เดือนแรกของปีนี้สูงถึง 31 ล้านเหรียญสหรัฐฯ เพิ่มขึ้น1.7% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีกลาย ขณะที่จำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติเพิ่มขึ้น 0.7%  

             ด้านเว็บไซต์แม่โขง ทัวริซึ่ม ก็ระบุการท่องเที่ยวของเวียดนามในช่วงหกเดือนแรกของปีนี้ เติบโตถึงเท่าตัว โดยยอดนักท่องเที่ยวต่างชาติเดินทางเข้าประเทศกว่า 4.7 ล้านคน หรือเพิ่มขึ้นคิดเป็น 2.3% เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีกลาย ซึ่งยอดที่เพิ่มขึ้นนั้นแน่นอนมาจากนักท่องเที่ยวจีนแผ่นดินใหญ่ ที่หลั่งไหลเข้ามาเวียดนามมากเป็นอันดับหนึ่งถึงกว่า 1.2 ล้านคน ตามด้วยนักท่องเที่ยวเกาหลีใต้ ญี่ปุ่น สหรัฐอเมริกา จีนไทเป และ5ชาติจากยุโรป อันได้แก่ ฝรั่งเศส เยอรมนี อิตาลี สเปน และ สหราชอาณาจักร ทั้งนี้ทางการเวียดนามคาดว่าเมื่อถึงสิ้นปีจะมีนักท่องเที่ยวเข้าประเทศกว่า 9.5 ล้านคน.#

สตรีกับเศรษฐกิจอาเซียน

อาเซียนใกล้คลอด “มาตรฐานทักษะด้านท่องเที่ยว”

มีรายงานข่าวความเคลื่อนไหวของการประชุมรัฐมนตรีอาเซียน เพื่อการสร้างความตระหนักรู้ด้านมาตรฐานทักษะ และเปิดประตูไปสู่การเพิ่มความร่วมมือในด้านการเดินทาง การท่องเที่ยวและการโรงแรม ในกลุ่มประเทศอาเซียน ที่จะมีขึ้นในต้นเดือนสิงหาคมนี้ จะมีวาระสำคัญคือ การออกมาตรฐานทักษะที่ภาคอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวในกลุ่มสมาชิกชาติอาเซียนจำเป็นต้องใช้(ร่วมกัน)  โดยรัฐมนตรีจากประเทศสมาชิกอาเซียนจะเข้าร่วมประชุมกับกลุ่มผู้ประกอบการในภาคอุตสาหกรรมท่องเที่ยวเพื่อประกาศ “ข้อตกลงยอมรับร่วมกันในคุณสมบัติของบุคลากรวิชาชีพท่องเที่ยวแห่งอาเซียน” (MRA-TP) ในการประชุม MRA-TP ในกรุงจาการ์ตา วันที่ 8-9 ส.ค.นี้ 

มาตรฐานทักษะะสำหรับนักวิชาชีพการท่องเที่ยว จะมีผลกับ 32 ตำแหน่งงานด้านการท่องเที่ยวและโรงแรมในกลุ่มประเทศสมาชิกอาเซียน 10 ประเทศ เช่น แผนกต้อนรับ แผนกแม่บ้าน แผนกอาหารและเครื่องดื่ม รวมไปถึง แผนกบริหารธุรกิจนำเที่ยว แผนกประกอบอาหาร และแผนกธุรกิจนำเที่ยวซึ่งการยอมรับข้อตกลงดังกล่าวในการประชุม จะช่วยเพิ่มมาตรฐานการให้บริการและส่งเสริมการเคลื่อนย้ายในหมู่ผู้ประกอบวิชาชีพการท่องเที่ยวในอาเซียน

 “การปฏิบัติตามข้อตกลงฯ ดังกล่าวจะช่วยเพิ่มคุณภาพด้านบริการ เมื่อเกิดการเคลื่อนย้ายบุคลากรที่ ผ่านการฝึกอบรมและมีความมั่นใจฝีมือแรงงานที่เหมาะสมกับความต้องการของอุตสาหกรรมการท่องเที่ยว” Mr Arief Yahya รัฐมนตรีท่องเที่ยวอินโดนีเซีย ในฐานะผู้จัดงานประชุม กล่าว .#

สัญญาณที่ดีของเมียนมา

         สื่อท้องถิ่นในเมียนมา รายงานว่า บริษัทสื่อสารยักษ์ใหญ่ของนอร์เวย์ “เทเลนอร์” ได้รับสัมปทานในการให้บริการโทรศัพท์มือถือในรัฐยะไข่ ซึ่งการขยายตัวเข้าไปในรัฐยะไข่ในครั้งนี้ ทำให้ค่ายมือถือ “เทเลนอร์” มีเสาสัญญาณในทุกรัฐ ครอบคลุมทั้งภูมิภาคในเมียนมา โดยปัจจุบัน เทเลนอร์มีเสาสัญญาณอยู่ราว 5,300 เสาและมีแผนเพิ่มเสาสัญญาณเป็น 7 พันเสาในสิ้นปีนี้ วัตถุประสงค์ก็เพื่อสร้างเครือข่ายที่มีคุณภาพที่ดีที่สุดทั่วประเทศ เดิมทีนั้น เทเลนอร์ ต้องเผชิญกับอุปสรรคพอสมควรก่อนจะได้เข้าไปปักธงในรัฐยะไข่ อันเป็นพื้นที่ที่มีความไม่แน่นอนทางการเมืองและสังคม  ดังนั้น สิ่งสำคัญของการได้เข้าไปในรัฐยะไข่ของเทเลนอร์ คือบทพิสูจน์ถึงบรรยากาศการทำธุรกิจในรัฐต่างๆ และในประเทศเมียนมาทั้งหมด ซึ่งนี่ คาดว่าจะช่วยเพิ่มความสะดวกในการทำธุรกิจในเมียนมา และยังทำให้ประเทศที่เพิ่งได้รับประชาธิปไตย หลังถูกปกครองด้วยเผด็จการทหารมาหลายทศวรรษแห่งนี้ เป็นที่น่าสนใจมากขึ้นสำหรับนักลงทุนต่างชาติ.#

ลาวเฮไทยให้งบทำถนน

ลาวเฮไทยให้งบทำถนน : หลังจากมีความร่วมมือกันมาอย่างต่อเนื่อง ระหว่างไทยกับ สปป.ลาว ล่าสุด  รัฐบาลไทยได้ให้งบประมาณกว่า 1.5 พันล้านบาท ในการก่อสร้างถนนเส้นใหม่ ที่จะทำให้ สปป.ลาว ปลดล็อคจากดินแดนที่ไร้ทางออกทางทะเล โดยถนนมีชื่อว่า “หงสา-เชียงแมน” ระยะทาง 114 กม. ตรงจากแขวงหลวงพระบางไปถึงมณฑลยูนาน ของจีน โดยถนนสายนี้ยังเชื่อมต่อกับ จ.น่าน ของไทย เวียดนาม และตอนใต้ของจีน โดยการก่อสร้างเริ่มเมื่อเดือนมกราคม 2016 และคาดว่าจะแล้วเสร็จในปี 2018 ซึ่งคาดว่าจะช่วยย่นระยะเวลาเดินทางท่องเที่ยวระหว่าง สปป.ลาวกับไทย ลงได้ครึ่งหนึ่ง นอกจากนี้ คาดว่าจะช่วยส่งเสริมการค้า โดยเฉพาะอย่างยิ่งระหว่าง สปป.ลาวกับไทย รวมถึงทำให้ผู้ผลิตสินค้าในจีนสามารถเข้าถึงตลาดอาเซียน  อันจะเป็นการส่งเสริมการพัฒนาเศรษฐกิจอาเซียนด้วย.#

มาดูกัน..16 สถานี MRT สีม่วง ไปไหนได้บ้าง

 มาแล้วจ้า มาแล้ว รถไฟฟ้ามาหานะเธอ เอ๊ย รถไฟฟ้ามาถึงหน้าบ้าน"คนบางใหญ่"พร้อมเปิดให้บริการ6ส.ค.นี้..แต่ก่อนจะถึงวันวิ่งจริง จ่าย(ค่าตั๋ว)จริง รฟม.ทดลองวิ่ง/ทดลองให้นั่งฟรีมาสักระยะ และ ช่วงสุดท้ายที่เปิดให้นั่งฟรีคือ16-18น. ศุกร์22ก.ค.ที่ผ่านมา ก่อนเปิดใช้จริงในเดือนส.ค.นี้

ในเมื่อได้ตั๋วมาแล้ว..ก็อย่าให้เสียน้ำใจผู้ให้ ขอจัดเต็มลองใช้บริการตั้งแต่ อาคารจอดแล้วจร park&ride ที่ต้นทางสถานีบางไผ่ บอกเลยว่า.."มันใหญ่มาก"

เข้ามาหนแรกว่างงจะไปทางไหนดีที่ใกล้ทางเข้าสถานีที่สุด ก่อนตัดสินใจเลือกจอดที่ชั้น3โซนA-E กำลังดีเดินไม่ไกลทางเชื่อม

แต่ที่งงกว่าคือตอนหาทางออก เพราะเขาทำทางลงไว้ให้ออกไป สุพรรณบุรี ก็ได้หรือไปบางใหญ่ก็สะดวก เพราะงั้นควรตั้งสติให้ดีก่อนเหยียบคันเร่งว่าจะไปทางไหน

คราวนี้ มาดูกัน(พอสังเขป)ดีกว่าว่า ขึ้น/ลงสถานีไหน ใกล้กับที่ใดบ้าง

เริ่มจาก สถานีต้นทางบางไผ่(1) คนมาจาก ม.บัวทอง นี่ง่ายเลยนะข้ามสะพานลอยหน้ามบ.มาก็ถึงจุดขายตั๋ว

บรรยากาศบนชานชลา

สถานีต่อมา สถานีตลาดบางใหญ่ (2)ใครจะมาช้อป บิ๊กซี/โฮมโปร ถือว่าลงมาโป๊ะเลย หรือจะเดินชิลๆบนสกายวอล์คที่ทำเสริมเชื่อมเข้า central westgate ก็ง่าย แถมฝั่งตรงข้ามเป็นทางเข้าตลาดกลางบางใหญ่..อุ๊ยอะไรจะเป๊ะไปซะขนาดน้าน

จากนั้น สถานีสามแยกบางใหญ่ (3) ทางขึ้นอยู่ไม่ไกล ม.กฤษดานคร 10 อีกหนึ่งหมู่บ้านเก่าแก่ของย่านนี้ อีกฟากก็ วัดมะเดื่อ/ม.ธนกาญจน์

ส่วนใครจะมาติดต่อ สนง.สรรพากร/ประกันสังคมบางบัวทอง ขอให้ลงที่ สถานีบางพลู (4) แล้วเดินย้อนกลับมา..ไกลนิดหนึ่ง ถือซะว่าออกกำลังกาย หรือจะลงมาเรียกtaxiไปต่อ วัดสวนแก้ว/ตลาดสดเจ้าพระยา ก็ดีไม่น้อย

ส่วนถ้าจะต่อรถไป ถ.ราชพฤกษ์-สะพานพระราม4 ก็ให้ลงที่ สถานีบางรักใหญ่(5) /แต่ถ้าจะเข้าไปในซอยท่าอิฐ-ไทรม้า ก็เลยมาที่ สถานีบางรักน้อยท่าอิฐ (6) เช่นเดียวกับ สถานีไทรม้า (7) อยู่ใกล้ ม.ลดาวัลย์

ภายในตู้โดยสารที่บ่งบอกตัวตนของขบวนรถ

    แต่พอมาถึง สถานีสะพานพระนั่งเกล้า(8) นี่สิ ที่หลายคนตั้งตารอว๊าว กับขบวนรถไฟฟ้าที่วิ่งข้ามแม่น้ำเจ้าพระยา วิวเก๋กู๊ดไปอีกแบบ แต่ก็ต้องเผื่อใจเพราะเป็นการเห็นแม่น้ำแค่ฟากเดียว

แต่ว่าถ้าจะไป รพ.พระนั่งเกล้า-เข้าท่าน้ำนนท์ หรือมาวัดน้อยนอก-สนามบินน้ำ-วัดตำหนัก ก็ต้องลงสถานีนี้ แต่พอเลยไป สถานีแยกนนทบุรี1 (9) สำหรับมาแยกถนนเลี่ยงนนท์/ห้างเซ็นทรัล ฯลฯ และอีกสถานีสำหรับคนชอบช้อป คือ สถานีบางกระสอ (10)ขอบอกว่าถูกใจแน่เพราะลงปุ๊บ ประตูbig c รัตนาธิเบศร์ อยู่ไม่ไกลเลย

แต่ถ้าอยากมาติดต่องานรัฐ ก็ลง สถานีศูนย์ราชการนนทบุรี(11) (ศาลากลางนนท์).หรือจะเดินต่อไปออกกำลังกายในสวน-เดินไปเอสพานาด/โลตัสแครายก็ง่าย และถ้าจะมาติดต่อ สภ.อ.เมือง ก็เดินข้ามมาอีกฝั่ง

จากนั้นรถไฟฟ้าตีโค้งขวามายาวๆ ถึง สถานีกระทรวงสาธารณสุข (12) ที่ ถือว่าอำนวยความสะดวก ให้คนมาทำงานที่นี่ได้เยอะเพราะมีหน่วยราชการแยะ

ทีนี้พอรถไฟฟ้าเลี้ยวซ้ายผ่าน สถานีแยกถนนติวานนท์ (13)ตรงมาถนนกรุงเทพ-นนท์ วิ่งตรงไปทางแยกวงศ์สว่าง..มีสถานีวงศ์สว่าง(14) รออยู่ ทางนี้แหละที่ถือว่าคนที่ใช้เส้นนี้ "เป็นประจำ" น่าจะได้ประโยชน์เต็มๆกับถนนที่ได้ชื่อว่าเล็ก&แคบ และติดหนึบเส้นหนึ่งเลยเชียว..เพราะงั้นคนใช้รฟม.เส้นทางนี้ถือว่า...คุ้ม ลดเวลาเดินทางได้เยอะ

จากนั้น มายัง สถานีบางซ่อน (15)และปลายทาง สถานีเตาปูน (16) เบ็ดเสร็จ 16 สถานี ระยะทาง 23 กม.ซึ่งคิดสะระตะ ค่าตั๋วจากสถานีบางไผ่ มา เตาปูน 42 บาทกับเวลาเดินทางราว 45 นาทีต่อเที่ยว...ไปกลับก็ 84 บาท อาจลำบากใจอยู่บ้างสำหรับคนงบน้อยถ้าต้องมาบ่อยๆ แต่ถ้าคิดซะว่าเป็นค่าซื้อเวลาในช่วงเวลาเร่งด่วนก็ถือว่า เข้าใจได้อยู่

ส่วนหนึ่งของอร่อย@ตลาดเตาปูน

สถานีเตาปูน

และ.. ข้อดีอีกอย่างสำหรับคนชอบทานของอร่อย เมื่อปลายทางที่สถานีเตาปูน ลงบันไดทางออก 3 ก็คือ ตลาดสดเตาปูน(ตลาดมณีพิมาณ) ตลาดเก่าแก่ที่มีทั้งของสดของใช้เสื้อผ้าผักผลไม้ รวมถึงเมนูอร่อยๆ อยู่เพียบ  ..วันไหนนึกอยากหา ของอร่อยในตำนาน@ตลาดเตาปูน ที่จัดเต็มทั้งก๋วยเตี๋ยวเจ้าเก่าแก่ ก๋วยจั๊บ ข้าวขาหมู ขนมจีน หมูสะเต๊ะ รวมทั้ง ขนมหวานแบบไทยๆ ไอศกรีมหลากรส ที่ล้วนเปิดขายกันมานานเป็นสิบปี ล่ะก้อ..ถือว่า MRT สีม่วง เป็นทางเลือกในการมาที่โอเคเลย.#